ข้าวบาร์เลย์ เป็นพืชเมืองหนาวที่มีถิ่นกำเนิดในหลายประเทศ ทั้งในแอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง อาทิ อิสราเอล ตุรกี เอธิโอเปีย ลิเบีย และโมรอคโค เป็นต้น
ข้าวบาร์เลย์ที่ปลูกในปัจจุบัน ถูกพัฒนาสายพันธุ์หรือมีสายพันธุ์บรรพบุรุษมาจากข้าวบาร์เลย์พันธุ์ป่า โดยมีศูนย์กลางความหลากหลายทางพันธุกรรมอยู่ที่บริเวณ The Fertile Crescentของตะวันออกประเทศอิสราเอล ตุรกี และอิหร่าน ซึ่งเป็นพันธุ์ชนิดสองแถวเท่านั้น ที่สามารถปลูก และเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
ชนิดพันธุ์ตามฤดู
1.กลุ่มพันธุ์หนาวแท้จริง(winter type) เป็นข้าวบาร์เลย์ที่เติบโต และติดเมล็ดได้ดีเฉพาะพื้นที่ที่มีอากาศหนาว และต้องการอากาศหนาวมากกว่า 6 เดือน
2.กลุ่มพันธุ์ฤดูใบไม้ผลิ(spring type) เป็นข้าวบาร์เลย์ที่เติบโต และติดเมล็ดได้ในพื้นที่ที่มีฃอากาศหนาวเย็นไม่มาก และต้องการระยะเวลาของอากาศหนาวน้อย ประมาณ 6 สัปดาห์ เป็นพันธุ์ที่ปลูกมากในแถบเอเชีย และมีการปลูกในประเทศไทย
การปลูกข้าวบาร์เลย์ ข้าวบาร์เลย์เป็นพืชที่เติบโตได้ดีในพื้นที่อากาศหนาวเย็น สามารถทนต่อสภาพอากาศแห้งแล้งได้ดีมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นต้องการน้ำน้อย และชอบดินค่อนข้างเหนียวหรือเป็นดินเหนียวปนดินอื่นๆปัจจุบันพบปลูกทั้งในประเทศเขตหนาวและเขตร้อน ซึ่งสามารถปรับตัวต่อสภาพอากาศในประเทศที่มีอากาศหนาวน้อยได้ดี และยังต้องการอากาศหนาวเย็นตลอดช่วงการเติบโต
การปลูกข้าวบาร์เลย์ในประเทศไทย นิยมปลูกมากในภาคเหนือ และภาคอีสาน โดยนิยมปลูกในช่วงต้นฤดูหนาว ในแปลงนาหลังเก็บเกี่ยวข้าวหรือแปลงพื้นที่ไร่
การเตรียมแปลง หลังเก็บเกี่ยวข้าวหรือพืชไร่แล้วให้ไถกลบดินอย่างน้อย 1 ครั้ง แต่ละครั้งตากดินนาน 7-10 วัน จากนั้น ไถยกร่องหรือขุดร่องตื้นๆ ประมาณ 10 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างร่อง ประมาณ 25-30 เซนติเมตร
วิธีปลูก หลังเตรียมร่องแล้ว ให้โรยก้นร่องตามแนวยาวของร่องด้วยปุ๋ยคอก อัตรา 1 ตัน/ไร่ และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 20 กิโลกรัม/ไร่ แล้วโรยเมล็ดข้าวบาร์เลย์เป็นแถวตามแนวยาวของร่องก่อนเกลี่ยดินด้านบนคลุกผสม หรืออักวิธี คือ หว่านเมล็ดทั่วแปลงหลังการไถพรวนครั้งที่ 2 แล้วใช้รถไถปั่นคลุกหน้าดินให้กลบเมล็ด ทั้งนี้ ให้หว่านรองพื้นปุ๋ยก่อนการไถกลบครั้งที่ 2
การเก็บผลผลิต ข้าวบาร์เลย์เป็นพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ประมาณ 90-110 วัน หรือประมาณ 3 เดือนเศษๆ โดยการเก็บเกี่ยวอาจใช้เคียวเกี่ยวด้วยมือหรือใช้รถเกี่ยวข้าวทั่วไป
สำหรับเมล็ดพันธุ์ควรจัดเก็บในถุงผ้าหรือถุงกระสอบในที่แห้ง ก่อนเก็บควรคลุกสารป้องกันแมลง โดยเฉพาะด้วงงวงข้าว(Sitophilusoryzae) ที่มักพบอาศัย และเจาะกินเมล็ดพันธุ์จนเสียหาย