จากสถาานการณ์ Covid ในปัจจุบัน ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทย ล่าสุด ถึงแม้ภูฏานจะมีผู้ติด Covid 19 เพียง 5 คนในประเทศ ยอดปัจจุบัน 5 เมษายน แต่ กษัตริย์จิกมี (สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก) มีพระราชกระแสรับสั่งให้สาธารณสุขเตรียมความพร้อมต่อสู้กับ Covid 19 และพระองค์ทรงร่วมฝ่าฟันปัญหาทุกด้านกับพสกนิกร สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก
เสด็จพระราชดำเนินไปทรงตรวจสอบความพร้อมของสถานพยาบาลพักฟื้น รักษา Covid ยังภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออกของภูฏานเพื่อทรงเตรียมรับมือกับ Covid 19 โดยพระองค์ยังทรงพบได้กับเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลประชากรผู้มีความเสี่ยง และทรงเน้นย้ำนจุดประสงค์หลักให้ทุกคนป้องกัน Covid 19เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อต่อสู้กับ Covid นี้
ทางภูฏานยังได้จัดตั้งโครงการฝึกอบรม เกี่ยวกับการสาธารณสุขการเตรียมความพร้อมเพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ให้กับครู 2,500 คน เยาวชนผู้ว่างงานและอาสาสมัคร และอาสาสมัครทั้งหมดจะได้รับการตรวจร่างหายก่อนเริ่มงานสามอาทิตย์ หลังจากนั้นสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ได้เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยม Royal Guest House ที่ดัดแปลงเป็นโรงพยาบาลชั่วคราวเพื่อรักษาผู้ติดต่อ Covid 19 และยังมีพระราชกระแสรับสั่งว่า หลังจากติดต่อ Covid 19 จบลง สถานที่แห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลแม่และเด็กแห่งภาคตะะวันออก
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏานยังทรงเป็นห่วงด้านสาธารณูปโภคของประชาชนภูฏาน พระองค์จึงเสด็จฯ ไปยัง Food Corporation of Bhutan (FCB) เพื่อทรงตรวจสอบว่าสต็อกอาหารที่จำเป็นต้องเก็บรักษา ไม่เพียงเท่านั้นพระองค์ยังทรงเป็นห่วงด้านการค้า ต่อจากนั้นจึงเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมเยียนร้านค้า และทรงสอบถามเรื่องผลกระทบจาก COVID 19 ว่าอย่างไรบ้าง
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ปิดพรมแดนทุกด้าน อันเป็นมาตรการปกป้องประชาชนชาวภูฏาน พระบรมราชโองการฯ ระบุถึง ความจำเป็นที่จะต้องปิดพรมแดน อันเป็นมาตรการเพื่อรับมือ Covid 19 ที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่ทั่วโลก และเข้าใกล้ภูฏานมากขึ้นทุกวัน และเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของพสกนิกร ที่ถือเป็นความสำคัญใหญ่หลวงที่สุด
จึงต้องใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้อง ผู้ที่อยู่ต่างประเทศและอยากจะกลับบ้าน รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือ ส่วนพวกที่กำลังศึกษาและทำงานอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ต้องวิตก พระบรมราชโองการ ยังเรียกร้องให้พสกนิการสามัคคีและช่วยเหลือกัน นอกเหนือจากรัฐบาล ที่มีหน้าที่บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนมาตรการที่บังคับใช้ รวมทั้ง ปิดโรงเรียน
และให้พ่อแม่ช่วยกันสั่งสอนลูกๆ ตามวัยเรียน อย่าปล่อยเวลาผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ รัฐบาลได้ช่วยอำนวยประโยชน์สนับสนุนการศึกษา เช่น อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ คนชราต้องได้รับการดูแล ทั้งความปลอดภัยและความสะอาด
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวที่มา: siamstreet.com