ปัจจุบันได้มีการพัฒนาทางด้านรถยนต์ประเภทต่างๆ สามารถที่จะประหยัดน้ำมันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลลังานทดแทน หรือผลิตให้มีรถที่มีขนาดเล็กลงเครื่องยนต์น้อยลง สามารถที่จะประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น รวมไปถึงการใช้รถไฟฟ้าแทนน้ำมัน มีการดัดแปลงเพื่อใช้ LPG CNG เป็นเชื้อเพลิงทดแทนและมีเทคโนโลยีอีกอย่างหนึ่งที่กำลังเป็นที่สนใจ เรียกว่าไฮบริด เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างพลังงานไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อน และน้ำมันที่ใช้เคลื่อนยนต์ในการขับเคลื่อน๙งจะทำให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า ใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียว สำหรับข้อพิจารณาเลือกรถยนต์ไฮบริดมีดังนี้
1. มองหารถที่ชอบ เลือกยี่ห้อและรูปแบบที่ต้องการว่าเราจะใช้รุ่นไหนมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรถที่มีราคาถูกๆ ที่เป็นรถที่มีขนาดเล็กอย่างเช่น Honda Jazz หรือไปรุ่นกลางของ Civic สำหรับของ Toyota เองก็จะ Prius ที่นิยมใช้ ในแต่ละรุ่นมีขนาดที่แตกต่างกันและราคามีไม่เหมือนกัน หากต้องการใช้งานงบน้อย จะเป็น Jazz ซะมากกว่า แต่ความแตกต่างไฮบริดทั้งสองยี่ห้อมีความต่างกันของ Honda จะใช้รูปแบบมอเตอร์จะทำงานผสมผสานไปกับเครื่องยนต์ตลอดเวลา เป็นการเสริมแรงให้กับเครื่องยนต์ซึ่งเครื่องยนต์ก็ใช้ในขนาดที่เล็กลง ในขณะที่ Toyota นั้นจะใช้มอเตอร์บางช่วยและเสริมบางช่วง อย่างเช่นช่วงออกตัวจะใช้แรงมอเตอร์เดี่ยวๆ และช่วงความเร็วคงที่ เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน
2. ความคุ้มค่าที่จะใช้ไฮบริด อันนี้ต้องเข้าใจว่าเทคโนโลยีนี้สามารถที่จะทำให้เราประหยัดน้ำมันได้จริง แต่ก็ต้องแรกกับราคาที่แพงขึ้นด้วย เพราะว่ามีระบบที่ทดแทนเข้ามา จากรถที่มีราคาแพงระบบเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญมีแบตเตอรี่ไว้เก็นพลังงานไฟฟ้าสำรอง เปลี่ยนทีราคาไม่ไช่ถูกๆนะ ดังนั้นแล้วเราควรที่จะว่านำไปใช้งานบ่อยแค่ไหน ถ้าขับทุกวันมันน่าจะคุ้มแน่นอน แต่เดือนหนึ่งขับ 5 -10 ไม่น่าจะคุ้มเท่าไหร่ เพราะว่าแบตเตอรี่เองเสื่อมได้เองตามระยะเวลา คือไว้เฉยๆก็เสื่อมได้ ดังนั้นแล้วควรคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลักด้วย จะได้มีความคุ้มค่าที่ได้จ่ายมาราคาแพง
3. ประเภทและขนาด ควรเลือกประเภทและขนาดที่มีความเหมาะสมกับการใช้งาน หากต้องการประหยักมากก็ใช้ใช้ขนาดที่เล็ก หือว่าจะใช้ขนาดที่ใหญ่ให้เหมาะสม บางคนอาจจะใช้ SUV ไปเลยก็ได้ซึ่งมีราคาแงและมีขายในบ้านเราค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นรถยุโรป
4. ความเหมาะสมแบตเตอรี่ อันที่จริงแบตเตอรี่ราคาแพงตามีอายุการใช้งานและความทนทานที่ดีดว่า แต่แน่นอนกว่าคุณต้องมีการเปลี่ยนอาจจะอย่างน้อย 7 ปีไปจนถึง 10 กว่าปีก็ตาม การที่จะซื้อจึงต้องสอบถามก่อนที่จะซื้อเพราะว่าบางเจ้ามีการรักประกันไว้ ว่านานได้กี่ปี และเปลี่ยนราคาเท่าไหร่
5. มาตรฐานและความสะดวกสะบาย ต้องทดลองนั่งดูแลทดสอบการขับขี่ จะได้พบความสะดวกสะบายที่ต้องการหรือไม่ มีอุปกรณืเพิ่มเติมต่างๆ ขนาดของห้องผู้โดยสารเหมาะสมกับที่ต้องการหรือเปล่า
6. ดูจากข้อคิดเห็นต่างๆ ให้ค้นหาข้อมูลที่อยู่ตามอินเตอร์เน็ตประกอบการตัดสินใจ เพราะข้อเสนอแนะ รวมไปถึงผู้ที่เคยใช้รถรุ่นที่เราต้องการว่าเป็นอย่างไร มีปัญหาอะไรที่พบบ่อย ถือได้ว่าเป็นข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใช้งานเอง
7. สอบถามจากตัวผู้ขาย การที่เราได้รับข้อมูลและประสิทธิภาพการทำงาน ผู้ขายจะให้คำแนะนำเป็นอย่างดี มีระบบไฟฟ้าต่างๆภายในที่ครบ ที่สำคัญรถยนต์ประเภทนี้มีข้อดีคือการปล่อยมลพิษที่น้อยกว่า เสียงที่เงียบกว่ารถที่ใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียว และมักจะตกแต่งที่แตกต่างไปด้วย